Rugal ตำรวจกล คนเหนือมนุษย์ ซีรีส์เกาหลี Netflix แนวแอ็กชั่นไซไฟล้ำๆ เรื่องของทีมตำรวจมนุษย์ดัดแปลงใส่อวัยวะจักรกลสุดล้ำเข้าไปในตัวจนมีพลังเหนือมนุษย์ เพื่อตามล่าล้างบางองค์กรอาชกรรมใหญ่ระดับประเทศ
ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็กชั่นไซไฟที่ไม่ค่อยมีมาบ่อยนัก เรื่องราวของ “คังคีบอม” (Choi Jin-hyuk จาก Tunnel )คือตํารวจสายสืบชั้นยอดที่ถูกป้ายสีว่าฆาตรกรรมภรรยาของตน อีกทั้งยังโดนควักดวงตาไป โดยทั้งหมดเป็นฝีมือขององค์กรก่อการร้ายขนาดใหญ่ “อาร์โกส” ที่กุมอำนาจเส้นสายเครืออิทธิพลในเกาหลีไว้แทบทั้งหมด ในขณะที่เขาคิดว่าตัวเองสูญเสียทุกอย่างและต้องติดคุก เขากลับได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลลึกลับให้ออกจากคุกได้ พร้อมกับผ่าตัดมอบดวงตาจักรกลอัจฉริยะสุดล้ำให้ โดยแลกเปลี่ยนกับการมาร่วมทีมหน่วยงานลับ “รูกัล” ที่นำโดยอธิบดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรวบรวมตำรวจและคนที่สูญเสียอวัยวะในร่างกายมาผ่าตัดดัดแปลงใส่จักรกลเข้าไป โดยมีเป้าหมายโค่นล้มอาร์โกสให้ได้
ตัวเรื่องแม้จะมีความล้ำมาก เรียกว่าเกินอนาคตกันใกล้นี้เลยด้วยซ้ำกับอวัยวะเทียมเหนือมนุษย์ที่ทีมพระเอกผ่าตัดเปลี่ยนไว้ในร่างกายทุกคน แต่ว่าโลกของเรื่องนี้กลับอยู่ในยุคปัจจุบัน ยังใช้มือถือซัมซุงกาแลกซี่กันปกติอยู่เลย อาจจะเพราะว่าเรื่องนี้ทำมาจากการ์ตูนในเว็บตูนด้วย ทำให้ตัวเรื่องออกแนวเหมือนการ์ตูนมาก แล้วก็เหมือนซีรีส์ไอ้มดแดงของญี่ปุ่นหยั่งกะลอกกันมา ตั้งแต่มีองค์กรร้ายลึกลับใหญ่โต ตามล่าคนคนปกติ จากนั้นพระเอกก็สูญเสียจนได้รับการช่วยเหลือจากองค์ลึกลับนำมาผ่าตัดแปลงร่างให้เหนือมนุษย์กลับไปล้างแค้น ฝ่ายตัวร้ายก็มีเทคโนโลยีจักรกลฝังชิพควบคุมอะไรต่างๆ นาๆ ไว้ในคนฝ่ายตนเองเหมือนกัน ซึ่งการที่ไปเหมือนไอ้มดแดงของญี่ปุ่นนี่ก็ไม่ใช่ความผิดอะไรหรอกครับ เพราะเรื่องแนวนี้มันก็คือต้นแบบ Super Hero ของทางเอเชียดีๆ นี่เอง คนดูพร้อมจะสนุกได้ถ้าเรื่องมันดี สมเหตุผลในแบบโครงเรื่องแนวๆ นี้ แต่เรื่องนี้กลับสอบตก มีความไม่เมคเซนส์แทบทุกจุดตลอดเวลา
ความไม่เมคเซนส์ในเรื่องนี้ถ้าสาธยายคงยาวเหยียดแน่ๆ จึงขอยกตัวอย่างพอคร่าวๆ ให้ได้เห็นภาพกันก่อน เริ่มตั้งแต่ พระเอกแหกคุกหลุดจากการคุมตัวได้ง่ายๆ แค่ขอไปห้องน้ำผู้คุมไขกุญแจโซที่คล้องขาไว้ให้เดินไปเข้าห้องน้ำเองหน้าตาเฉย แถมไม่มีแม้แต่การตามไปคุมอะไร จนพระเอกวิ่งหนีไปไกล จู่ๆ ก็ตัดมาให้ผู้คุมนึกได้วิ่งตามหา พร้อมกับ สบถ บัดซบ! ซึ่งคนดูก็คงคิดเหมือนกันว่าผู้คุมอะไรมันจะโง่ปานนี้
เทคโนโลยีในเรื่องก็มาง่ายๆ คือมีปูไว้ว่าหมอในโรงพยาบาลวิจัยกันมานานหลายเวอร์ชั่น แถมถึงขั้นเทคโนโลยีระดับต่างดาวเลย ดวงตาของพระเอกที่มองเห็นวิเคราะห์ข้อมูลยังไม่เท่าไหร่ แต่อย่างหัวหน้าพระเอกนี่แขนกลพลังช้างสาร แล้วมีเนื้อเทียมหุ้มไว้เหมือนคนเหล็กอีกต่างหาก หรือแม้แต่ความมั่วๆ ของเทคโนโลยีอย่างการถ่ายทอดภาพจากที่ไกลๆ ซึ่งก็ไม่รู้องค์กรพระเอกใช้อะไร มองเห็นเหมือนมีตาทิพย์ไปหมดทุกที่ แถมนึกจะใส่อะไรก็ใส่มางงๆ อย่างโดรนบินไปติดต้นไม้ที่นึง แต่ถ่ายภาพเหตุการณ์ไกลออกไปไม่รู้กี่กิโลได้ คือคนสร้างเรื่องนี้ละทิ้งเหตุผลอะไรไปหมดแล้วจริงๆ ครับ เหมือนจะบอกว่าเรื่องมันโม้แล้ว คนดูจะมาหาเหตุผลประกอบทำไมอีกประมาณนั้น แต่ความสมเหตุผลกับเรื่องโม้แต่งแล้วเป็นยังไงก็ได้มันคนละเรื่องกัน นิยายไซไฟก็โม้กันทุกเรื่อง แต่ทำยังไงให้คนเชื่อด้วยรายละเอียดที่สมเหตุผลต่างหากคือหัวใจของเรื่องแนวไซไฟแบบนี้
อีกอย่างคือเรื่องตั้งใจขายหล่อสวยของทีมพระเอกมาก หลายฉากพยายามให้ดูเท่กันตลอดเวลา เดินมากันเป็นทีมเหมือนไอดอลดาราอะไรแบบนั้น แถมมีตัวละครที่เหมือนเด็กไม่โตในทีมติดเล่นเหมือนไม่จริงจังจนดูไม่เข้ากับโทนเรื่องที่ต้องดาร์คๆ ซีเรียส
ฝั่งพระเอกว่าไม่สมเหตุผลแล้ว แต่อาร์โกสก็ไม่แพ้กัน แม้เรื่องวางไว้ว่าพวกนี้ยังเป็นแค่แบบแก๊งอิทธิพลใหญ่ ไม่ได้มีอะไรล้ำๆ ก็เลยใช้พวกไม้บอสบอลเป็นหลัก มีแค่พวกบอสองค์กรที่มีปืน แถมนึกจะยิงลูกน้องก็ยิง ออกแนวโชว์ออฟเป็นการ์ตูนเท่ๆ ว่ายิงลูกน้องเล่นได้ ตัวบอสใหญ่เปิดมาแต่แรกแบบดูหน้าก็รู้เลยว่า “โง่” แล้วบทก็วางไว้ให้ตัวละครนี้โง่ตามนั้นจริงๆ จังๆ จนดูโอเว่อร์มาก อย่างการที่จู่ๆ ก็โกรธขับรถไล่ตามทีมพระเอกคนเดียวไม่บอกใคร ทิ้งให้ลูกน้องเป็นสิบงง แถมจะตามพระเอกไปไหนก็ยังไม่รู้เลยเหมือนขับรถไปเรื่อยๆ แล้วก็โดนหลอกเข้าแผนง่ายๆ ถึงแม้ว่าเรื่องจะวางไว้ว่าตัวร้ายจริงๆ คืออีกคน แต่มันก็ไม่สมเหตุผลด้วยประการทั้งปวงที่บอสใหญ่คนแรกขององค์กรมีนิสัยหัวร้อนง่าย และความคิดที่เหมือนนักเลงกระจอกข้างถนนแบบนี้
ในขณะที่ปูเรื่องว่าอาร์โกสโหดสัสๆ แต่พอสู้กันจริงๆ เหมือนเตะต่อยกันธรรมดา แถมสตันท์ในเรื่องก็แย่มาก แรกๆ อาจจะดูดี แต่พอเรื่องพยายามโชว์อะไรหลายอย่าง จะมองเห็นเลยว่าไม่ลงทุนสตันท์เล่นจริงๆ จังๆ เลย อย่างฉากแรกๆ ที่พระเอกขี่มอเตอร์ไซด์เอียงสไลด์ปาดขาฝูงตัวร้ายให้ล้ม ก็ยังจะซูมภาพเข้าไปให้เห็นว่าล้อรถไม่ได้โดนขา ตัวประกอบกระโดดข้ามหมด แล้วก็ตัดฉากมาอีกทีทำเป็นล้มร้องโอดโอย ซึ่งมันปลอมมาก ไม่ลงทุนกระทั่งฉากเบสิคง่ายๆ แบบนี้
ความลับในดวงตาจักรกลของพระเอก (มีสปอยล์)
สิ่งที่น่าติดตามในเรื่องจริงๆ คงเป็นความสามารถในดวงตาของพระเอกว่าจะมีอะไรแปลกใหม่แค่ไหน ซึ่งเรื่องก็จะค่อยๆ เผยว่าดวงตาคู่นี้มีฟังก์ชั่นลับอยู่ และยังมีอย่างอื่นซ่อนอยู่อีก เป็น AI. มีความคิดเป็นของตัวเอง พูดคุยโต้ตอบกับพระเอกได้ และดวงตาเข้ายึดครองร่างพระเอกได้กลายเป็นโหมดสังหารโหด ซึ่งเป็นปมที่พึ่งใส่มาในตอน 10 และนอกจากดวงตาแล้ว ตัวร่างกายของพระเอกเองก็มีพัฒนาการเกินกว่ามนุษย์ปกติไปแล้ว โดยไม่ได้เกิดจากการผ่าตัดของรูกัล
เรื่องเป็นแนววางแผนชิงไหวพริบทั้งฝ่ายอาร์โกสกับรูกัล
สำหรับช่วงแรกอาจจะทำให้คิดว่าแนวเรื่องเป็นบู๊แอ็กชั่นตามล่าไล่ฆ่าอาร์โกส แต่พอเรื่องเดินไปเรื่อยๆ จะเห็นว่าตัวเรื่องจริงๆ เป็นการวางแผนล้างแค้นตอบโต้กันทั้งฝ่ายรูกัลกับอาร์โกส ซึ่งผลัดกันวางแผนดักทางกัน ตัวพระเอกเองได้เจอกับตัวบอสของเรื่องอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้แบบจะฆ่ากัน ต่างฝ่ายต่างใช้การวางแผนหลอกล่อให้มาติดกับดัก ซึ่งในเรื่องอธิบายไว้ว่าจะล้มอาร์โกสได้ต้องให้มันต่อสู้ขัดแย้งกันจากภายใน เรื่องจึงเดินไปแบบว่าฝ่ายอาร์โกสมีการแย่งชิงตำแหน่งและหักหลังกันเองอยู่ตลอด จนแทบจะไม่เหลือตัวละครหลักสักเท่าไหร่ และพุ่งเป้าเน้นๆ ไปที่ตัวละครหลักฝ่ายตัวร้ายเพียงแค่ 2 คน รองประธาน Hwang Deuk Goo กับประธานสาว Choi Ye Won ซึ่งต้องบอกว่าพอเรื่องโฟกัสให้แคบแล้วชิงไหวพริบกันระหว่างพระเอกกับสองคนนี้ ทำให้เรื่องดูสนุกมากกว่าที่คิดในตอนแรกมากขึ้น
ตัวเรื่องมีเรื่องความรักใส่มาแพลมๆ
ก็เหมือนเป็นสูตรสำเร็จเกาหลีที่ต้องมีส่วนนี้ผสมรวมอยู่ด้วย แม้ว่าในเรื่องพระเอกจะเปิดมามีครอบครัวมีคนรักที่เสียชีวิตไป แต่ต่อมาตัวเรื่องก็เริ่มปูให้เห็นว่ารุ่นน้องร่วมทีมมีใจให้พระเอกมาตลอด รวมถึงตัวร้ายของเรื่องฝั่งอาร์โกสที่สวยระดับนางเอก ที่ภายหลังกลายมาเป็นเรื่องราวผูกพันมีบทรักใคร่กับพระเอกเช่นกัน
สรุปรีวิว (EP1-16)
แม้เรื่องจะมีจุดด้อยเรื่องไม่สมเหตุผลมากมาย แต่ก็ทำตามสูตรซีรีส์เกาหลี ทีมพระเอกหรือตัวร้ายที่สวยหล่อ ฉากในเรื่องมีความรุนแรงสูง มีความน่าสนใจตามดูว่าพวกอุปกรณ์จักรกลในเรื่องจะมีพลิกแพลงอะไรใหม่ๆ บ้าง ซึ่งถ้าดูแบบไม่คิดเหตผลอะไรเลย มันก็เหมือนซีรีส์ไอ้มดแดงเวอร์ชั่นเก่าๆ หรือหนังทีวียุคก่อนที่ไม่ค่อยตั้งใจทำบทให้สมเหตุผล แต่ดูแล้วก็มีความสนุกอยู่ ถือว่าค่อยๆ ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรื่องถูกโฟกัสไปที่การวางแผนชิงไหวพริบกันมากกว่าแค่แอ็กชั่นทั่วไป และก็มีจุดพลิกเรื่องราวกลับด้านที่น่าสนใจในช่วงหลังที่ซับซ้อนพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขนาดเดาไม่ได้
ปล.เรื่องตอนจบกะทิ้งเชื้อไว้ทำต่อเต็มที่ แต่ดูแล้วคงไม่มีครับ