ดูหนังออนไลน์

[รีวิวซีรีส์] Record of Youth เส้นทางดาว : ค้นฟ้าคว้าดาวแบบคนมีฝัน

ซีรีส์ส่งท้ายก่อนเข้ากรมไปรับใช้ชาติของ พัคโบกอม ที่เปิดตัวมาแบบสวย ๆ ด้วยเรตติ้ง 8.7% ว้าว!! ตัวเลขน่ากรี๊ดอยู่เหมือนกันนะ เล่าเรื่องราวของ  ซาฮเยจุน (พัคโบกอม) นายแบบโนเนมที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง แต่เส้นทางที่เลือกเดินและจุดหมายที่อยากจะไปถึงมันช่างยากเย็น ขึ้นชื่อว่าวงการบันเทิง หล่อสวยอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะไปรอดนะจ๊ะ ยิ่งยุคนี้สมัยนี้คะแนนความนิยมก็มีส่วนเป็นอย่างสูง ไหนจะบ้านจน ไหนจะไม่ดังพอที่จะมีใครรู้จัก อุปสรรคเยอะ ต่างกับ วอนแฮฮโย (บยอนอูซอก) เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ อย่างสิ้นเชิง ขานั้นเขาบ้านรวยมีแม่คอยหนุนหลัง ทั้งดันหน้าดันหลังสารพัดวิธีที่จะช่วยลูกชาย หนำซ้ำแม่ของ ซาฮเยจุนยังทำงานเป็นแม่บ้านให้กับบ้านของวินแฮฮโยอีกต่างหาก

Record of Youth เส้นทางดาว

แต่เห็นอย่างนี้เขาก็ยังมี อันจองฮา (พัคโซดัม) เมกอัปอาร์ทิสต์สาวฝีมือดี ที่ช่างเป็นตัวของตัวเอง มีความฝันอยากประสบความสำเร็จ แต่ก็มีอุปสรรค์ในเรื่องที่โดนขัดเข้งขัดขาจากรุ่นพี่ เป็นแฟนคลับที่แอบติ่งเขามานาน ณ จุดนี้ก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง สามคนเจอกันในงานแฟชันโชว์และตกลงเป็นเพื่อน (ที่ยังไม่สนิท) ต่อกัน เท่าที่ดูมา 4Ep สองหนุ่มน่าจะมีใจให้เมกอัปอาร์ทิสต์คนนี้ก็เป็นได้

พูดถึงบทและพล็อตของเรื่อง

บทเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่หวือหวาฟู่ฟ่า แต่สิ่งที่ได้กลับมาโดยเฉพาะสาว ๆ ก็น่าจะเป็นความเฟิ้มกับใบหน้าละมุน ๆ ของพัคโบกอมนั่นแหละจ้ะ ก็สมชื่อเรื่องเขาละค่ะ Record of Youth เหมือนเรากำลังดูบันทึกเล่มหนึ่งของหนุ่มสาวที่มีความฝันอยากจะค้นฟ้าคว้าดาว บทเขียนให้ ซาฮเยจุน (พัคโบกอม) เป็นคนมุ่งมั่น เถงตรงและใสซื่อ ไม่เกี่ยงงาน สามารถทำงานอะไรก็ได้ที่สุจริตเพื่อเลี้ยงตัวเองและเดินตามความฝัน ซีรีส์เน้นเรื่องความคิดของคนต่างวัย ในขณะที่ลูกมีฝันและอยากทำมันให้สำเร็จ แต่พ่อกลับไม่เห็นด้วยและคิดว่าอาชีพที่เขาเลือกไม่สามารถเลี้ยงตัวเองและจุนเจือครอบครัวได้

ซาฮเยจุน (พัคโบกอม)

แต่ก็ใช่ว่าจะใส่ความต่างทางความคิดออกมาอย่างไร้เหตุผล ขอแนะนำว่าซีรีส์เรื่องนี้ควรตั้งใจดู อย่าให้หน้านวล ๆ ของพัคโบกอมมาทำให้เราเขวแล้วพาลไม่รู้เรื่องเอาได้ เพราะบทพูดที่มากมายและการดำเนินเรื่องที่ราบเรียบไปสักหน่อยอาจพาให้เราแอบง่วงเอาได้อยู่เหมือนกัน แต่ในทุก ๆ คำพูดทุกการกระทำของตัวละคร มันมีปมของแต่ละคนซ่อนอยู่ ดูเผิน ๆ ในซีนของครับครัวซาฮเยจุน เหมือนจะโชว์อุปสรรคความต่างของ Gen ระหว่างพ่อลูก แต่ไม่ใช่ค่ะ ทุกอย่างมันมีเหตุผลที่บทตั้งใจใส่เข้ามาเลยละ เพราะในบทคุณปู่ของเรื่องเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีเลย

ซาฮเยจุน กับคุณปู่คู่ซี้

พล็อตเรื่องนี้มันคือละครชีวิต เป็นดราม่าการฝ่าฟันอุปสรรค์ของคนมีฝัน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกราฟชีวิตทั้งการดำเนินเรื่องที่ค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ สามารถจูงอารมณ์ของเราให้เข้มตามไปทีละตอน ๆ บทกระจายความสำคัญไปที่ตัวละครอีกสองตัว ให้เห็นถึงพื้นฐานครอบครัว ความคิด เรียกว่าเป็นบันทึกเส้นทางชีวิตของหนึ่งสาวสองหนุ่มก็ว่าได้ มีซีนเขิน ๆ ของซาฮเยจุน กับอันจองฮา (พัคโซดัม) ให้ดูแบบพอน่ารัก จะเอาหวาน ๆ จิกหมอน บอกเลยว่ายังไม่มี เพราะนางเอกจะดูห้าว ๆ ออกแนวสาวมั่นที่มีความคิดแปลก ๆ กับเรื่องความรัก

ซาฮเยจุน (พัคโบกอม)-อันจองฮา (พัคโซดัม)

ทางด้าน วอนแฮฮโย (บยอนอูซอก) เพื่อนสนิทของซาฮเยจุน ฝันของเขาก็ไม่ต่างกัน แต่ที่ต่างก็ตรงฐานะของเขาร่ำรวยกว่า มีแม่ที่คอยแอบเป็นเจ๊ดันลับหลังลูกอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเดินสบายกว่าอีกคนกันเห็น ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาก็รักเพื่อนและคอยสนับสนุนเพื่อนอยู่ตลอด ตัวละครตัวนี้แอบฝากปมอนาคตไว้เล็ก ๆ เกี่ยวกับแม่ เกี่ยวกับความชอบส่วนตัว เกี่ยวกับงาน ทำให้เดาได้เลยว่าในอนาคต เอ็งต้องมีเรื่องผิดใจกับเพื่อนแหง๋ ๆ ดูทรงของบทแล้ว หวยมันน่าจะออกมาในรูปนี้

วอนแฮฮโย (บยอนอูซอก)

แคสติ้งตัวแสดงสมจริงสไตล์เกาหลี

เราจะเห็นการแคสติ้งตัวแสดงของเกาหลีแบบนี้อยู่บ่อย ๆ คือ เน้นตัวแสดงที่เข้ากับบทมากกว่าความนิยมดารา ถึงแม้ว่าจุดขายของเรื่องนี้จะถูกเบี่ยงเบนไปที่พัคโบกอมก็ตาม แต่เขามีความขายบทอยู่มากพอสมควรเลยนะ ในบทของ อันจองฮา ที่ได้ พัคโซดัม มารับไป ทีมแคสติ้งเลือกมาได้สมบทเอามาก ๆ ในบทนี้อันจองฮาเป็น เมกอัปอาร์ทิสต์ รุ่นใหม่ไฟแรงฝีมือดี บุคลิกเป็นสาววัยทำงานที่ไม่อ่อนหวาน เพราะฝ่าฟันอุปสรรคโดยลำพัง ถึงกับซื้อบ้านเป็นของตัวเอง มีความคิดเรื่องการใช้เงินแตกต่างกับหญิงสาววัยเดียวกัน เถงตรงแต่ก็อดทนกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ดี ใฝ่ฝันว่าอยากจะเปิด Shop เป็นของตัวเองและเป็นติ่งตัวยงของซาฮเยจุนทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้โด่งดังอะไรเลย

อันจองฮา (พัคโซดัม)

กับบุคลิกตัวละครที่กำหนดมาแบบนี้ พัคโซดัม เหมาะสมแล้ว แฟน ๆ ซีรีส์อาจจะไม่ชินตากับเธอมากนัก เพราะนางเอกไม่ใช่พิมพ์นิยมเกาหลีสักเท่าไหร่ แถมยังเล่นซีรีส์มาไม่กี่เรื่องเพราะเธอเป็นสายภาพยนตร์ แต่ถ้าบอกว่าเธอคือนางเอก Parasite  เชื่อว่าทุกคนจะจำเธอได้ในทันที

เป็นการค้นฟ้าคว้าดาวแบบเนียน ๆ

ซีรีส์สไตล์นักล่าฝันทำนองนี้ไม่ใช่เรื่องแรก แต่ Record of Youth เส้นทางดาว ถือเป็นเรื่องแรกที่ทำออกมาได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ก็ไม่รู้ว่าเส้นทางดวงดาวของสังคมเกาหลีเขาเป็นแบบในเรื่องนี้รึเปล่า แต่ซีรีส์ทำให้เราเชื่อได้ว่าอ๋อ มันเป็นอย่างนี้ละมั้ง ไม่ว่าจะวงการเดินแบบ วงการละครหรือแม้แต่สังคมของช่างแต่งหน้า มันมีลำดับขั้นที่ข้ามยากหรือถ้าจะข้ามก็จะเกิดการขัดแข้งขัดขา มีอาวุโสที่ต้องเคารพทั้ง ๆ ที่ไม่อยากเคารพอย่างที่นางเอกของเรื่องต้องเผชิญ

วอนแฮฮโย (บยอนอูซอก)-ซาฮเยจุน (พัคโบกอม)

หรือการที่จะถูกเลือกมาแสดงในภาพยนตร์สักเรื่อง การมีเส้นสาย ความนิยมในสื่อโซเชียลก็ยังได้เปรียบกว่าความสามารถและความเหมาะสม จะบอกว่าตีแผ่สังคมบันเทิงไหมก็ยังไม่ขนาดนั้น แต่ถ้าบอกว่าเป็นบันทึกของคนหนุ่มสาวที่ทำให้เราตามติดชีวิตเขา เอาใจช่วยให้ทำอย่างที่ตั้งใจได้สำเร็จ อันนั้นใกล้เคียงกว่าและซีรีส์ยังใส่ความสมจริงเข้าไปอีกตรงที่เรื่องนี้มีความใกล้เคียงชีวิตจริงของพัคโบกอม ที่จะต้องเข้ากรมไปรับใช้ชาติ เหมือนฮีไม่ได้มาเล่นซีรีส์อ่ะค่ะ แต่ฮีเข้ามาใช้ชีวิตในซีรีส์ซะมากกว่า

ความน่าสนใจของเรื่องนี้จะบอกว่ามีมากก็มากได้ Ep4 ที่จบไปเรียกอารมณ์ค้างคาให้อยากตามต่อ Ep5 ได้ดีเลย มันมาแล้วอ่ะกราฟมันขึ้นมาแล้ว แต่สองตอนแรก กินข้าวอิ่ม ๆ แล้วมานั่งดูจะหาวนิด ๆ ได้เลยจ้ะ ไม่ได้น่าเบื่อแต่มีความเนิบนาบ ไม่มีช่วงลุ้นใดใดแต่มีช่วงเอาใจช่วยพระเอกอยู่ตลอด เรียกว่าไปแบบเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องและเป็นการปูพื้นตัวละครที่ไม่ควรละเลยไป หากอยากติดตามต่อไปให้ได้อรรถรส

Record of Youth เส้นทางดาว

  • ผลิตโดย : Studio Dragon
  • เขียนบท : Ha Myung-hee
  • กำกับ : Ahn Gil-ho

[รีวิวซีรีส์] Record of Youth เส้นทางดาว : ค้นฟ้าคว้าดาวแบบคนมีฝัน

รีวิวซีรีส์

[รีวิวซีรีส์] Flower of Evil : หรือเขาคนนี้อาจเป็น “ฆาตกร”

เรื่องนี้อีจุนกิรับบทเป็น โดฮยอนซูในคราบ แบคฮีซอง อ่ะ ไม่งงนะ คือฮีทิ้งชีวิตความเป็นโดฮยอนซู เด็กหนุ่มที่เป็นลูกชายของฆาตกรต่อเนื่องมาเป็น แบคฮีซอง ลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาล ทิ้งชีวิตเมื่อ 18 ปีที่แล้วเอาไว้ข้างหลังอย่างหวาด ๆ แล้วมาแต่งงานอยู่กินกับ ชาจีวอน (มุนแชวอน) ตำรวจสายสืบคดีอาชญากรรม อยู่กินกันมา 14 ปี จนมี แบคอึนฮา (จองซอยอน) ลูกสาววัยกำลังน่ารักด้วยกัน 1 คน

ภายนอกแบคฮีซองคนนี้ เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่น่ารักของลูก เปิดร้านออกแบบโลหะอยู่กับบ้าน ดูแลลูกและภรรยาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแถมยังทำอาหารอร่อย เรียกได้ว่าคือสามีในฝันที่ใครเห็นต่างก็พากันอิจฉา เป็นครอบครัวอบอุ่นที่เหมาะสมกับคำว่าสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งชาจีวอนต้องเข้าไปรับผิดชอบคดีฆาตกรรม และเริ่มสงสัยว่าสามีที่อยู่กินมานาน 14 ปี อาจเป็นฆาตกรที่หลบซ่อนอยู่ในชื่อคนอื่น

Flower of Evil

เล่นกับการเปิดปมแบบ ปมซ่อนปม

เรื่องนี้เดินเรื่องรวดเร็วและเปิดมาก่อนเลยว่า พระเอกอาจจะเป็นฆาตกรที่ฆ่าหัวหน้าหมู่บ้านตาย และเป็นลูกชายของฆาตกรต่อเนื่องที่ตำรวจกำลังตามหา แอบซ่อนตัวอยู่ในชื่อคนอื่น แถมยังเป็น ไซโคพาธ (psychopaths) เป็นโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) ต้องศึกษาการแสดงสีหน้าในอารมณ์ ความรู้สึกแบบต่าง ๆ ต้องฝึกยิ้มที่หน้ากระจกเพื่อให้ตัวเองสามารถแสดงสีหน้าได้เหมือนคนอื่น ๆ ฉากนี้สร้างความหลอนได้ 1 ระดับเลยทีเดียว

Flower of Evil

ดิฉันปักใจเชื่อว่าซีรีส์ต้องหลอกให้เราสงสัยในตัวพระเอก ไม่นะ อีจุนกิจะเป็นฆาตกรไม่ได้นะ ไอ้เรื่อง ไซโคพาธ (psychopaths) น่ะฮีเป็นแน่ ๆ เพราะเห็น ๆ กันอยู่ แต่ไอ้ที่ไม่เห็นก็คือปมที่ซ่อนอยู่ในปมอีกที ไหนจะปมเรื่องพ่อ ปมความผิดในอดีตและเป็นปมที่พระเอกก็อมพะนำไม่บอกใคร ฆ่าคนตายมาจริงรึเปล่าก็ไม่รู้แต่ก็ทำทีเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เพราะความจิตในแต่ละตอนที่แสดงออกมามันก็น่าเชื่อถือซะด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่จับ คิมมูจิน (ซอฮยอนอู) นักข่าวที่เป็นเพื่อนเก่ามาทรมาน หรือแม้แต่ตอนที่สอนลูกสาวให้ขอโทษเพื่อนทั้ง ๆ ที่ลูกไม่ผิดว่า

Flower of Evil

“ถ้าเราทำชื่อเสียงให้ดี หากเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาก็จะไม่มีใครสงสัยลูก แต่ถ้าลูกมีชื่อเสียงไม่ดีคนก็จะสงสัยลูกก่อน” ณ จุดนี้ อยากถามคุณพ่อว่าคุณพ่อคะ คุณพ่อเป็นฆาตกรจริง ๆ ใช่ไหมคะ!? นี่มันความคิดของคนที่เหมาะสมจะเป็นฆาตกรชัด ๆ

Flower of Evil

อีกปมหนึ่งที่ซีรีส์สร้างความสงสัยเอาไว้อีกก็คือ ครอบครัวจำแลงของพระเอก พ่อที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาล กับ แม่ที่เป็นเภสัชกร มีความลับอะไรซ่อนอยู่ ทำไมถึงรับพระเอกมาเป็นลูก ครอบครัวนี้ทำอะไรเลวร้ายมาบ้างไหม ในฉากที่พระเอกไม่ต้องการให้นางเอกมาสนิทสนมกับแม่ตัวเอง ฉากที่แม่ตั้งแง่และทำตัวไม่เป็นมิตรกับลูกสะใภ้และหลานตัวน้อย ที่ช่างเย็นชาและผิดวิสัยของคนเป็นหมอที่ควรจะอบอุ่นอ่อนโยน คำพูดบางคำที่พ่อพูดกับลูกชาย บ่งบอกถึงความมืดดำที่เก็บซ่อนเอาไว้และไม่อยากให้ใครรู้ ตอนนี้ซีรีส์ค่อย ๆ เผยมาทีละนิด แต่ก็ยังไม่เปิดทั้งหมด

Flower of Evil

แถมยังมีปมใหม่ที่เกี่ยวกับ โดแฮซู (จางฮีจิน) พี่สาวของพระเอกที่เป็นช่างแต่งหน้าเอฟเฟกต์โผล่เข้ามาอีก ซึ่งทำท่าว่าจะเป็นอีกตัวละครหนึ่งที่รู้ความลับเมื่อ 18 ปีที่แล้วเป็นอย่างดี ก็เท่ากับว่ายังคงไม่รู้อยู่ดีแถมยังมีตัวละครใหม่ ๆ โผล่มาเรื่อย ๆ เข้าไปอีก แล้วพระเอกนี่ก็ช่างมีเรื่องเข้าไปพัวพันกับคดีที่นางเอกทำอยู่ จากที่แอบ ๆ เอาไว้ได้ตั้งเป็นสิบปี จะหลุดโป๊ะก็คราวนี้แหละคุณเอ๊ย

เล่นกับความลับและความจริง

ซีรีส์เปิดออกมาเป็น เมโลดราม่า-ทริลเลอร์ สืบสวนสอบสวน ซึ่งโครงเรื่องก็เดาทางไม่ยากสักเท่าไหร่ แต่จุดที่น่าสนใจคือซีรีส์จะซ่อนปมแต่ละปมไว้ตรงไหนให้น่าติดตามอีก ซึ่งใน 4Ep ที่ผ่านมาถือว่าทำได้น่าติดตามเอามาก ๆ มีจุดแอ๊ะ มีจุดลุ้นให้หวาดเสียวเกือบตลอดทั้งเรื่อง ส่วนใหญ่แล้วซีรีส์แนวนี้มักจะนำเสนอแบบคดีซ้อนคดี ในแต่ละ Ep จะมีคดีอื่น ๆ แทรกเข้ามาให้ต้องสืบเสาะโดยมีคดีที่เป็นเมนหลักของเรื่องคุลมโทนอยู่ตลอดเวลา เรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ แต่คดีในแต่ละตอนไม่ได้ไปรบกวนคดีหลัก หากแต่ผสมผสานเชื่อมโยงกันจนน่าติดตามมากยิ่งขึ้นไปซะอีก

Flower of Evil

ทำให้เห็นความเก่งและความช่างสังเกตของตัวนางเอก ที่แต่ละคดีที่ผ่านมาถ้าไม่ได้สายสืบชาจีวอนแล้วละก็ คดีต่าง ๆ คงต้องพายเรือในอ่างไม่รู้ทิศอย่างแน่นอน ความเก่งในจุดนี้ก็สร้างความสงสัยให้คนดูอยู่มากพอสมควรตรงที่ ถ้าชาจีวอนจะเป็นสายสืบที่รอบคอบได้ขนาดนี้ เหตุไฉนถึงไม่เอะใจในแบคฮีซอง สามีของตัวเองที่นอนอยู่ข้าง ๆ มาถึง 14 ปีเลยล่ะ ซีรีส์ก็แก้เกมตรงนี้ให้จำนนได้อีกว่า เพราะแบคฮีซองเป็นแบคฮีซองได้อย่างแนบเนียน ฮีฝึกมาแล้วและรอบคอบตรงจุดนี้อยู่มาก ๆ งานนี้ต้องปรบมือให้กับอีจุนกิ ที่เคี้ยวบทนี้ได้อย่างละเอียดกับตาคนดูซะอีกด้วย เป็นสามีที่ก็น่ารัก เป็นพ่อก็อบอุ่น พอเป็นตัวเองแบบเต็ม ๆ ก็น่ากลัวเข้าไปอีก

ในบทแบคฮีซองจะเป็นคนที่อยู่กับความเครียด เป็นคนเย็นชา ไร้หัวใจ มีความลับที่เลวร้ายในอดีต แต่ในขณะเดียวกันต้องทำตัวให้มีภาพลักษณ์ที่อบอุ่น เพื่อซ่อนตัวจากอดีตที่ผ่านมา แต่เมื่อคดีเมื่อ 18 ปีที่แล้วกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง แบคฮีซองจะตบตาภรรรยาอย่างสายสืบชาจีวอนได้นานสักแค่ไหน ก็ต้องตามดูตอนต่อไปว่าซีรีส์จะเล่น ๆ หลอก ๆ เราไปในทางไหน ซึ่ง ep4 ที่ผ่านมา ทำเอาร้องว้ายในวินาทีสุดท้ายไปซะแล้ว กลัวพระเอกโดนจับได้ค่ะ บอกตรง ๆ เพราะโป๊ะแตกคามือกันเห็น ๆ

เล่นกับแสงสีและเวลา

เรื่องนี้มีการแฟลชแบ็กเป็นระยะ ๆ แต่ไม่ได้คลี่คลายอะไรเลย เป็นแฟลชแบ็กที่สร้างความสงสัยเข้าไปอีกว่าอะไรกันแน่ อะไรกันจ๊ะ เราไม่สามารถตัดข้อที่พระเอกอาจเป็นฆาตกรไปได้ แล้วก็ไม่สามารถปักใจเชื่อได้ในเวลาเดียวกัน การที่พระเอกปล่อยตัวนักข่าวไม่ทำร้ายจนตาย การที่พระเอกแสดงความเป็นห่วงต่อภรรยาในฉากที่เกิดการปะทะ มันก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ความรักละลายหัวใจฆาตกรคนหนึ่งได้ ถ้าเขาเป็นฆาตกรจริง ๆ คือมันชักจะยังไง ๆ กันอยู่ เกมอาจจะพลิกที่พระเอกโดนใส่ร้ายก็เป็นได้ เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำค่ะคุณผู้ชม

Flower of Evil

การจัดแสงในเรื่องนี้ถือว่าเป๊ะปัง จนต้องพอสเอาไว้เพื่อดูแสงในบางตอนบางมุม สีหน้าที่ยิ้มแย้มของพระเอกที่ขัดกับแววตาจืดชืดบวกกับแสงเหงา ๆ ตึง ๆ ในห้องทำงาน ส่งบุคลิกให้น่ากลัวมากกว่าน่ากอดเข้าไปอีก บรรยากาศที่ควรจะหวานแหวนมันไม่ได้หวานเอาซะเลย กลายเป็นลึกลับและเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ตัดอารมณ์ด้วยการแคปหน้าพระเอกที่ยิ้มแฉ่ง นางเอกไม่รู้ แต่คนดูรู้ว่าฮีปลอม ถือว่าซีรีส์คลุมโทนในแต่ละฉากได้ดี จนทำให้เราคล้อยตามได้ง่าย ๆ จนรู้สึกตามได้ว่า พระเอกน่าสงสารมากกว่าน่ากลัวไปแล้วนะ

ชอบเป็นการส่วนตัวกับการไล่แสงบนหน้าของพ่อพระเอก ไม่รู้ว่าตอนถ่ายทำเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ ไม่รู้ว่าตัวแสดงต้องเดินไปทางซ้าย ทางขวาเพื่อให้แสงลงหน้าเป๊ะ ๆ แล้วพอดิบพอดีกับโครงหน้าได้ขนาดนั้นหรือเปล่า ก็อยากให้ไปดูกันเองค่ะ การจัดแสงเรื่องนี้เหมือนจะธรรมดา แต่ใส่ความหมายซ่อนความรู้สึกเอาไว้ได้ดีเลยทีเดียว สามารถใช้คำว่าสนุกทุกตอนได้อย่างไม่เสียปาก

Flower of Evil

  • แนว : เมโลดราม่า | ลึกลับ | ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ : คิมชอลคยู
  • คนเขียนบท : ยูจองฮี
  • วัน-เวลาออนแอร์ : พฤหัส-ศุกร์
  • จำนวนตอน : 16
  • ช่วงทางรับชม : VIU , WeTV , iQIYI

รีวิวMoonlight Drawn by Clouds

ซีรีส์เรื่องดัง “Moonlight Drawn by Clouds” ที่สร้างเรตติ้งอันดับหนึ่งในเกาหลี ช่อง 8 ไม่รอช้าคว้าออกอากาศในประเทศไทย ให้คอซีรีส์เกาหลีได้ฟินกันแล้วจ้า โดยเริ่มประเดิมตอนแรกไปเมื่อ วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา

ซีรีย์เกาหลี Moonlight Drawn by Clouds มีชื่อภาษาไทยว่า รักเราพระจันทร์เป็นใจ ก่อนหน้านี้ตัวทีเซอร์ได้สร้างความฮือฮาทั่วเกาหลี เมื่อพระเอกของเรื่องอย่าง “พัคโบกอม” ออกสเต็ปเต้นหน้าพระราชวังในชุดโบราณจนฮือฮา ทันทีที่ซีรีย์เรื่องนี้ออกอากาศที่เกาหลี สามารถครองเรทติ้งอันดับหนึ่งภายในเวลาอันรวดเร็ว และในตอนล่าสุด (ตอนที่ 5) เรตติ้งก็พุ่งไปถึง 20.4% แล้ว! งานนี้ช่อง 8 มือไวฉวยมาออกอากาศต่อจาก “Doctors” หรือ “ตรวจใจเธอให้เจอรัก” ที่ลาจอไปทันที

ในตอนแรกกับ “รักเราพระจันทร์เป็นใจ” (Moonlight Drawn by Clouds) ได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี โดยเรื่องนี้จะออกอากาศช้ากว่าที่เกาหลี 4 ตอน ซึ่งจะมีสองระบบเสียงให้เลือกชม งานนี้ต้องยกนิ้วให้กับนักแสดงนำอย่าง “คิมยูจอง” ที่รับบท ฮงราอน สาวน้อยที่ปลอมตัวเป็นชาย และกลายไปเป็นขันทีในวังหลวง ทำตัวเป็นกูรูเรื่องความรักให้ใครต่อใคร จนได้พบกับ “อียอง” องค์รัชทายาทฮโยมยอง รับบทโดย “พัคโบกอม” ที่ฮงราอนไม่รู้ว่าเขาคือองค์รัชทายาท และอียองเองก็ไม่รู้ว่าฮงราอนเป็นผู้หญิง เรื่องราววุ่นๆ จึงเกิดขึ้น

รักเราพระจันทร์เป็นใจ (Moonlight Drawn by Clouds) ออกาอากาศทุกคืนวันจันทร์-อังคาร 22.00 น. ทางช่อง 8 หมายเลข 27 ใครอยากจิ้นอยากฟินเวอร์ ต้องไม่พลาด! ตัวอย่างซีรีส์ รักเราพระจันทร์เป็นใจ (Moonlight Drawn by Clouds)

รีวิวMoonlight Drawn by Clouds

รีวิวซีรีส์เกาหลี

รีวิวItawon Class

[รีวิว] 'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น' ชั้นเรียนชีวิต ธุรกิจ และความสัมพันธ์ (จากคนที่ชีวิตพังไม่เป็นท่า)

“ผมทำในสิ่งที่ผมเชื่อว่าถูกต้อง นั่นคือสิ่งที่พ่อสอนผม และผมตั้งใจจะใช้ชีวิตแบบนั้น”

ทุกวันนี้ ‘ความถูกต้อง’ ‘ความจริง’ หรือ ‘ความยุติธรรม’ ยังเป็นสิ่งที่สังคมมองหาอยู่อีกเหรอ? นี่คือคำถามสีเทา ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัว ขณะที่กำลังดู ‘Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น’ ไปได้เพียงไม่กี่นาทีของ Ep. 1 ยอมรับตามตรงเลยว่าเมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของ ‘พัคแซรอย’ ผู้ชายที่เรียนไม่จบ  ม.ปลาย พ่อตาย แถมยังติดคุกคนนี้ มันช่างเป็นคำพูดที่น่าโดนดูถูกด้วยคำว่า ‘โลกสวย’ เสียเหลือเกิน…

เรื่องราวของ ‘Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น’

‘Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น’ เป็นซีรีส์ Original Netflix เรื่องใหม่ ที่ถูกสร้างจากการ์ตูนดังฝั่งเว็บตูนเกาหลีในชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวของ พัคแซรอย (รับบทโดย พัคซอจุน) เด็กหนุ่มหัวเกรียน เอ้ย! หัวขบถ ที่มีความเป็นตัวเองสูง แต่ก็กลับนอบน้อมและมีความมุ่งมั่นแตกต่างจากเด็กทั่วไป แต่แล้วความฝันที่เขาพยายามฝึกฝนตัวเองเพื่อสอบเข้าเป็นตำรวจก็ต้องจบลง เมื่อเขาไปมีเรื่องถึงขั้นต่อยหน้า จางกึนวอน (รับบทโดย อันโบฮยอน) ทายาทเจ้าของธุรกิจอาหารมากอิทธิพลอย่าง ประธานจางแดฮี (รับบทโดย ยูแจมยอง) ที่เรียนอยู่ห้องในเดียวกันซะยับ แถมแซรอยเองก็ยังปฏิเสธการคุกเข่าขอโทษ เพราะเขาเชื่อว่าเขาทำไปเพื่อช่วยเพื่อนร่วมห้องที่โดน จางกึนวอน รังแกโดยไร้การแยแสจากบรรดาครูทั้งหลายที่เห็นเหตุการณ์ ทำให้พ่อของแซรอยที่ทำงานเป็นลูกน้องในบริษัทใหญ่นั้นต้องพลอยโดนไล่ออกไปด้วย

[รีวิว] 'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น' ชั้นเรียนชีวิต ธุรกิจ และความสัมพันธ์ (จากคนที่ชีวิตพังไม่เป็นท่า)

เรื่องมันกลับเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อแซรอยที่แม้จะเรียนไม่จบแต่ก็ตั้งใจจะเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ เพื่อสานฝันให้พ่อ แต่แล้วความฝันนั้นต้องดับลงอีกครั้งเมื่อพ่อของเขาถูกรถชนตายด้วยฝีมือของ จางกึนวอน อีกครั้ง จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ครั้งนี้ได้นำแซรอยไปสู่เส้นทางแห่งความแค้นฝังลึก เขาจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อการสานฝันของพ่อด้วยธุรกิจอาหารที่ยิ่งใหญ่ คือหนทางเดียวกันกับการล้างแค้นเพื่อโค่นล้มธุรกิจยักษ์ของคนตระกูลจางให้ล่มจม

ความรู้สึกหลังดู

ซีรีส์พาเราไปรู้จักกับโลกของ ‘พัคแซรอย’ ชีวิตมหัศจรรย์ของเด็กหนุ่มผู้(อยาก) โค่นยักษ์ ผู้ใช้ทั้งชีวิตแลกกับความฝันอันยิ่งใหญ่ แบบที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ทั้งที่เรียนไม่จบ ติดคุก โดนซ้อม ออกจากคุกมาก็ไปทำงานประมง หรือแม้กระทั่งงานกรรมกรที่แสนสาหัสแซรอยก็ผ่านมันมาแล้วทั้งหมด ความสำเร็จที่เขาวาดฝันเอาไว้ มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ใกล้ ๆ แค่ในหนังสือเล่มเล็กที่คนทำชีวิตของเขาพังเป็นผู้เขียนมัน

[รีวิว] 'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น' ชั้นเรียนชีวิต ธุรกิจ และความสัมพันธ์ (จากคนที่ชีวิตพังไม่เป็นท่า)

เราจึงจะได้เห็นเส้นทางการเติบโตตั้งแต่เด็กหนุ่มยันเป็นชายหนุ่ม ที่มีความพลิกผันหักมุมอยู่ตลอดเวลา ใครที่ชอบดูซีรีส์แนวดราม่าเข้มข้น มีการวางแผน การล้างแค้นเอาคืน หรือหักเหลี่ยมเฉือนคมกันอย่างมีชั้นเชิงล่ะก็… บอกเลยว่าคุณไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้อย่างเด็ดขาด

'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น'

และแม้ว่าเราในฐานะคนดูจะเคยดูถูกความโลกสวยในคาแรคเตอร์ของ ‘พัคแซรอย’ เอาไว้(เหมือนที่คู่ปรับอย่างประธานจางแดฮีก็เคยดูถูกเขาแบบนี้) แต่บอกเลยว่าทันทีที่ดู Ep.8 จบ คาแรคเตอร์ของ พัคแซรอย กลายเป็นสิ่งที่เรารักที่สุดในซีรีส์ คือต้องยกความดีความชอบให้ พัคซอจุน ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของพัคแซรอยออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือ ความหัวขบถเล็ก  ๆ ที่มาพร้อมจิตวิญญาณอันมุ่งมั่นผสมกับความใสซื่อนั้นถูกบอกเล่าผ่านสีหน้า ท่าทาง และคำพูดได้อย่างหมดจด บทจะซื่อ ๆ งง ๆ ก็น่ารักน่าเอ็นดู บทจะดราม่าตึงเครียดก็ใส่เต็มจนรู้สึกได้ถึงความอึดอัดและเจ็บปวดจริง ๆ ของตัวละคร จนเรียกได้ว่าฝีมือทางการแสดงนั้นแทบไร้ที่ติ

'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น'

ศัตรูคู่อาฆาตอย่างสองพ่อลูก จางกึนวอน (รับบทโดย อันโบฮยอน) และ ประธานจางแดฮี (รับบทโดย ยูแจมยอง) คือส่วนผสมชั้นดีที่อยากจะเกลียดก็เกลียดไม่ลงจริง ๆ เพราะสองคาแรคเตอร์นี้ถูกสร้างมาให้เป็นทั้งศัตรูและครูในเวลาเดียวกันของแซรอย เราจะได้เห็นว่าครอบครัวแบบไหนที่สร้างคน ๆ หนึ่งให้กลายมาเป็นปีศาจร้าย และมันเลวร้ายจนไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะสามารถเข้าใจความรู้สึกลึก ๆ ของคาแรคเตอร์สีเทาจนเกือบดำมืดอย่างจางกึนวอนได้ หรือแม้แต่เราจะให้ความรู้สึกเคารพในความน่าเกรงขาม ของคาแรคเตอร์อย่างประธานจางแดฮีได้ แม้ว่าคนพวกนี้จะเคยเหยียบย่ำตัวละครที่เรารักไว้แค่ไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้มันแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการสร้างตัวละครของซีรีส์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น'

โดยเฉพาะกับตัวละครหลักอื่น ๆ เช่น โจอีซอ (รับบทโดย คิมดามิ) สาวน้อยไอคิว 162 ที่เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญในชีวิตของแซรอย และ โอซูอา (รับบทโดย ควอนนารา) รักแรกและรักเดียวผู้ยืนอยู่คนละเส้นทางกับแซรอย นางเอกทั้งสอง(?) ของเรื่องที่แม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่จะได้เป็นตัวจริงของพ่อหัวเกาลัค แต่ความน่ารักและเสน่ห์อันเหลือล้นที่มาพร้อมบทบาทที่ต่างกันแบบสุดขั้ว มันทำให้เราคนดูสามารถหลงรักพวกเธอทั้งคู่ได้ไม่ยาก (แต่หลัง ๆ เริ่มยากตรงไม่รู้จะเชียร์ใครดีนี่แหละ)

[รีวิว] 'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น' ชั้นเรียนชีวิต ธุรกิจ และความสัมพันธ์ (จากคนที่ชีวิตพังไม่เป็นท่า)

หรือจะเป็นเหล่าลูกจ้างในร้านของแซรอยอย่าง ชเวซึงควอน (รับบทโดย รยูคยองซู) , จางกึนซู (รับบทโดย คิมดงฮี) , มาฮยอนอี (รับบทโดย อีจูยอง) ที่แต่ละคาแรคเตอร์นั้นถูกถอดและออกแบบมาอย่างดีจากการ์ตูนต้นฉบับ ผ่านการเติมแต่งใส่มิติและความแตกต่าง เพื่อเข้ามาเติมเต็มและปรับสมดุลของตัวเนื้อเรื่องที่มีทั้งความดาร์ก ตึงเครียด และดราม่า ให้ได้ผ่อนคลายและน่าติดตามมากขึ้น จนเรียกได้ว่าทุกตัวละครของซีรีส์เรื่องนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวมีความสนุกและเข้มข้นได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีใครโดดเด่นไปกว่าใครแถมทุกคนล้วนแล้วแต่มีผลกับเนื้อเรื่องทั้งหมดอีกด้วย

[รีวิว] 'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น' ชั้นเรียนชีวิต ธุรกิจ และความสัมพันธ์ (จากคนที่ชีวิตพังไม่เป็นท่า)

และอีกหนึ่งสิ่งที่ชอบมาก ๆ ในซีรีส์เรื่องนี้คือความพยายามสอดแทรกประเด็นสังคมใหญ่ ๆ (ที่เป็นปัญหาชัดเจนในเกาหลีใต้) เอาไว้มากมาย เช่น ประเด็นความเหลื่อมล้ำในสังคม  การเหยียดสีผิวหรือเชื้อชาติที่ยังฝังรากลึก หรือแม้กระทั่งประเด็น LGBT ที่ดูเหมือนจะเปิดกว้างแต่ที่จริงช่างยากจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ซีรีส์สามารถนำเสนอออกมาในมุมที่ Positive และโดดเด่นอย่างที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากเรื่องไหน ๆ

[รีวิว] 'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น' ชั้นเรียนชีวิต ธุรกิจ และความสัมพันธ์ (จากคนที่ชีวิตพังไม่เป็นท่า)

คนดูอย่างเรา ๆ จึงมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้เสพการเล่าเรื่องราวของสงครามธุรกิจชนิด ‘แจ็คผู้ฆ่ายักษ์’ ที่ทั้งสนุก เข้มข้น และมีชั้นเชิงในการลำดับเรื่องราวที่น่าสนใจ ผ่านตัวละครที่สมบูรณ์แบบ ซับซ้อน และสมจริง ดูเป็นเรื่องราวชีวิตของคนสีเทา ๆ ที่มีทั้งด้านดีและร้าย แถมบางครั้งก็ร้ายใส่กันได้อย่างไม่น่าเชื่อ…

[รีวิว] 'Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น' ชั้นเรียนชีวิต ธุรกิจ และความสัมพันธ์ (จากคนที่ชีวิตพังไม่เป็นท่า)

และ ‘อิแทวอน’ ย่านที่เป็นดั่งศูนย์รวมความหลากหลายของทั้งผู้คน เชื้อชาติ และเรื่องราวมากมาย มันจึงเป็นเหมือนชั้นเรียนชีวิตจริงที่ให้เราได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อม ๆ กับ ‘พัคแซรอย’ เด็กหนุ่มที่เรารักและรู้จักดีที่สุดในซีรีสืเรื่องนี้ นี่แหละ… ความหมายของ ‘Itaewon Class’ ล่ะ

Blood เรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลี

Blood เรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลี

สนับสนุนเนื้อหา

ชื่อเรื่อง: Blood / Beulreodeu / 블러드
ผู้กำกับ: Ki Min-Soo
เขียนบทโดย: Park Jae-Bum
สถานีที่ออกอากาศ: KBS2
จำนวนตอน : 20 (To Be Confirmed)
ช่วงเวลาออกอากาศ : 16 ก.พ. 58 – 21 เม.ย. 58
เวลาออกอากาศ : จันทร์-อังคาร [เวลา 21:55 น.เวลาเกาหลี][เวลาไทย 19.55 น.]
นำแสดงโดย : อานแจฮยอน (Ahn Jae Hyun), คูฮเยซอน (Koo Hye Sun) , จีจินฮี (Ji Jin Hee)

เรื่องย่อซีรีส์ Blood

พัคจีซาง แวมไพร์ที่เป็นหมอผ่าตัดที่ศูนย์มะเร็ง ซึ่งบทที่เขารับเล่นนี้เขาจะมาเป็นฮีโร่ที่ต้องเผชิญหน้ากับการพิทักษ์ความถูกต้องและยุติธรรมของชีวิตผู้ป่วยที่ใกล้จะตาย ความผิดสิ่งเดียวเท่านั้นที่เขามี นั่นก็คือการกระหายในเลือด เขาจะเป็นดาร์คฮีโร่ที่ไม่สนใจโชคชะตาที่เป็นเหมือนคำสาป และใช้ความสามารถที่เหนือมนุษย์ในการช่วยเหลือผู้คน

รายชื่อนักแสดง Blood

Ahn Jae Hyun รับบท Park Ji Sang

Koo Hye Sun รับบท Yoo Ri Ta

Ji Jin Hee รับบท Lee Jae Wook

Jung Hae In รับบท Joo Hyun Woo (Ji Sang’s friend)

Kwon Hyun Sang รับบท Nam Chul Hoon

หนัง : Blood
ช่อง : KBS2
ออกอากาศทุกวัน : จันทร์, อังคาร
ผู้กำกับ : Ki Min-Soo
ผู้เขียนบท : Park Jae-Bum
วันที่เข้าฉาย : 1424062638
นักแสดงนำ : อานแจฮยอน, คูฮเยซอน, จีจินฮี

สนุกลุ้นทุกตอน “Leverage S.1” ซีรีส์เกาหลีที่รวมเหล่านักต้มตุ๋น นำแสดงโดย อีดงกอน

คอซีรีส์แนวสืบสวนไม่ควรพลาด!! ความสนุกในครั้งนี้ ผู้นำดูหนังออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์ ได้นำเสนอซีรีส์ยอดนิยมจากประเทศอเมริกาที่ถูกนำมารีเมคสร้างในเวอร์ชั่นเกาหลี “Leverage S.1 ภารกิจลับ ยอดนักต้มตุ๋น” ซีรีส์แนวแอ็คชั่น-สืบสวนสอบสวน ร่วมด้วยนักแสดงสุดฮอตของเกาหลี อาทิ อีดงกอน, จอนฮเยบิน เป็นต้น

“Leverage S.1 ภารกิจลับ ยอดนักต้มตุ๋น”

อีดงกอน (รับบท อีแทจุน)

เรื่องราวเริ่มต้นจากการสูญเสียลูกชายของพระเอก

เรื่องราวของ อีแทจุน นักสืบประกันภัยที่ต้องสูญเสียลูกชายไปด้วยโรคมะเร็ง แต่การตายของลูกชายของเขากลับมีเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำและมีผลประโยชน์ทางธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาจึงได้ก่อตั้งทีมเฉพาะกิจที่รวมเหล่านักต้มตุ๋นทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพไว้ด้วยกัน ประกอบไปด้วย

  • ฮวังซูกยอง นักแสดงละครเวทีที่ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพ แต่เธอกลับเป็นนักต้มตุ๋นที่ตบตาเหยื่อได้อย่างแนบเนียน
  • นาโกบยอล หญิงสาวที่มีทักษะการโจรกรรมขั้นสูง
  • จองอึยซอง แฮกเกอร์มือหนึ่ง
  • รอย นักฆ่ารับจ้างผู้อ่อนโยนกับสัตว์เลี้ยงและเด็ก โดยทักษะของแต่ละคนช่วยให้ทีมเวิร์กสมบูรณ์และปฏิบัติภารกิจได้อย่างไร้ที่ติ

พวกเขาต้องทำการโจรกรรมข้อมูลของนักธุรกิจและคนรวยที่มีเบื้องหลังไม่ชอบมาพากล เพื่อเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณะชนรับรู้และเอาเงินสกปรกไปคืนให้กับคนที่สมควรจะได้ แต่ยิ่งสืบไปก็ยิ่งพบว่าสิ่งที่พวกเขากำลังต่อสู้อยู่เป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ และมีคนที่คาดไม่ถึงเป็นผู้บงการทั้งหมด!!

รายชื่อนักแสดงนำ

  • อีดงกอน (รับบท อีแทจุน)
  • จอนฮเยบิน (รับบท ฮวังซูกยอง)
  • คิมแซรน (รับบท นาโกบยอล)
  • ยอฮเว ฮยอน (รับบท จองอึยซอง)
  • คิมควอน (รับบท รอย)

รีวิวซีรี่ย์เกาหลี ดูซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ย์เกาหลีน่าดู

น่าจับตามองกับพล็อตการตามไล่ล่าปีศาจ ของ นัมจูฮยอก และ จองยูมิ ในซีรีส์ The School Nurse Files

The School Nurse Files ซีรีส์เกาหลี

The School Nurse Files สร้างจากนิยายขายดี School Nurse Ahn Eun-young

The School Nurse Files ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือนิยายขายดี School Nurse Ahn Eun-young ในปี 2558 โดย จองเซรัง มารับหน้าที่เขียนบทซีรีส์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง กำกับโดย อีคยองมิ ผู้กำกับภาพยนตร์ The Truth Beneath, Crush and Blush

เนื้อเรื่องย่อ

The School Nurse Files เล่าถึงความลับและความวุ่นวายในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง ‘อันอึนยอง’ ครูพยาบาลที่มีพลังเหนือธรรมชาติมองเห็นปีศาจร้ายได้ นั่นทำให้เธอต้องช่วยปกป้องนักเรียนจากเหตุร้าย ขณะเดียวกัน ‘ฮงอินพโย’ ครูภาษาจีน ที่เป็นหลานชายของผู้ก่อตั้งโรงเรียน ก็ยังไม่รู้หลายอย่างเกี่ยวกับความลับในห้องใต้ดินของโรงเรียน แต่เขาก็มีพลังพิเศษที่เป็นเกราะป้องกันภัยอันตรายจากเหล่าปีศาจ ทั้งยังช่วยมอบพลังให้กับอันอึนยองได้ ทั้งคู่แท็กทีมกันต่อสู้และค้นหาความลับที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย

ภาพ :i.pinimg

นัมจูฮยอก รับบท ฮงอินพโย

เป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาจีน ผู้ทรงอิทธิพลในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้เพราะเป็นโรงเรียนของคุณปู่ ฮงอินพโยประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ทำให้เขามีปัญหาในการเดิน ขากะเผลก อินพโยจะมาเป็นคนที่คอยช่วยให้พลังกับอึนยองในการช่วยปราบผี

นัมจูฮยอก พระเอกหนุ่มหล่อคนนี้ เคยมีผลงานชื่อดังเป็นกระแสมาแล้วมากมาย อาทิ School 2015 who are you, Cheese in the Trap, Weightliting fairy Kim Bok Joo, Moon Lovers Scarlet Heart ryeo และ The Light in Your Eyes ฯลฯ

ภาพ :marieclairekorea.com

จองยูมิ รับบท อันอึนยอง

ครูพยาบาลในโรงเรียนมัธยมของปู่ฮงอินพโย เธอมีพลังเหนือธรรมชาติมองเห็นปีศาจร้ายได้ เธอจึงต้องคอยช่วยปกป้องนักเรียนจากเหตุร้ายต่าง ๆ

ก่อนหน้านี้ จองยูมิ นักแสดงหญิงมากเสน่ห์ เคยมีผลงานการแสดงชื่อดังมาหลายเรื่อง อาทิ The Age of Success (1988), Oishii Man (2008), A Million (2009), Our Sunhi (2013), Train to Busan (2016) และ Kim Ji-young: Born 1982 (2019) เป็นต้น

พัคโบกอม พัคโซดัม และ บยอนอูซอก ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับซีรีส์ Record of Youth เส้นทางดาว

Record of Youth ซีรีส์เกาหลี บยอนอูซอก พัคโซดัม พัคโบกอม

Record of Youth เส้นทางดาว ฉายอีพีแรกวันที่ 7 กันยายน เป็นซีรีส์ที่ทุกคนจับตา นับตั้งแต่การร่วมแสดงซีรีส์ครั้งแรกระหว่าง พัคโบกอม ที่เพิ่งเข้ากรมรับใช้ชาติ กับ พัคโซดัม นักแสดงสาวจากภาพยนตร์ Parasite พร้อมทั้ง บยอนอูซอก นักแสดงดาวรุ่งจากซีรีส์

โดย พัคโบกอม (Encounter, Reply 1988, Love in the Moonlight) จะรับบทเป็น ซาฮเยจุน นายแบบหนุ่มชื่อดังที่อยากจะผันตัวมาเป็นนักแสดง, พัคโซดัม (Parasite, Cinderella with Four Knights) รับบทเป็น อันจองฮา ช่างแต่งหน้าสาวที่ทั้งฉลาด มั่นใจ, และ บยอนอูซอก (Dear My Friends, Search: WWW) รับบทเป็น วอนแฮฮโย

ก่อนซีรีส์จะออกอากาศ พัคโบกอม พัคโซดัม และบยอนอูซอก ได้ให้สัมภาษณ์อย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับ Record of Youth

แนะนำคาแรคเตอร์ที่ได้รับในซีรีส์

พัคโบกอม: ฮเยจุน เป็นคนที่มีเหตุผลมากและเชื่อมั่นในตัวเอง เขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือและเข้มแข็ง ตัวผมเองพยายามจะเป็นตัวเขาให้ใกล้เคียงที่สุดตอนที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ครับ
พัคโซดัม: อันจองฮา เป็นคนที่เท่มากๆ ไม่เคยเหนื่อยและทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่เธอวางไว้
บยอนอูซอก: วอนแฮฮโย เป็นคนที่ไม่ได้ชอบใจเวลาได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ จากการที่เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ ตัวเขาเองอาจจะดูมีความสุขไม่มีเรื่องต้องเดือดร้อน แต่เขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและพยายามพิสูจน์ตัวเอง ได้โปรดเห็นใจแฮฮโยและให้กำลังใจเขาด้วยนะครับ

การเตรียมตัวสำหรับคาแรคเตอร์

พัคโบกอม: ในชีวิตปกติ ฮเยจุนเป็นชายหนุ่มในวัย 20 ค่อยๆ เดินตามเป้าหมายชีวิตไปเงียบๆ ผมพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงตัวละครที่เป็นผู้คนธรรมดาในวัยใกล้เคียงกับผม ที่ทุกคนล้วนมีความฝัน การรับบทนี้ ผมหาเรฟเฟอเรนส์เยอะมากครับ ทั้งวีดีโอแฟชั่นโชว์ ภาพนิ่ง และคลิปสัมภาษณ์ต่างๆ ผมจะใช้ฝึกฝนในตอนที่มีเวลาว่าง คนรอบๆ ตัวผมบอกว่าความมั่นใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมเลยพยายามทำทุกอย่างด้วยความมั่นใจ
พัคโซดัม: จองฮาจะต้องสวมหูฟังไร้สายไว้สื่อสารตอนที่ทำงาน ซึ่งมันไม่สบายเลยค่ะ ที่ต้องใส่สิ่งนี้ไว้ในหูทั้งวัน แล้วบางทีก็ได้ยินไม่ชัด มันเป็นเรื่องที่ลำบากเหมือนกัน ฉันคิดว่าพนักงานในร้านทำผมก็คงเจอปัญหานี้กันมาตลอด
บยอนอูซอก: แฮฮโยเป็นนายแบบที่ผันตัวไปเป็นนักแสดง มันเลยจะมีฉากเดินแฟชั่นโชว์ในซีรีส์เรื่องนี้ ตัวผมเองเป็นนายแบบที่เปลี่ยนมาเป็นนักแสดง และถึงแม้ว่าจะเดินแบบมาเยอะมากแล้ว แต่ผมกลับตื่นเต้นตอนที่ถ่ายฉากนี้ ผมต้องไปดูวีดีโอเก่าๆ ที่เคยเดินบนรันเวย์ต่างๆ และฝึกซ้อมเยอะมากเลยครับ

พูดถึงวัยหนุ่มสาว

พัคโบกอม: ผมคิดว่าความเป็นหนุ่มสาวคือหัวใจของคุณตอนที่จะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งเรื่องอายุไม่เกี่ยวเลยครับ

พัคโซดัม: วัยหนุ่มสาวคือรับความท้าทายที่ไม่มีวันจบและเติบโตไปกับมัน

บยอนอูซอก: ความเยาว์วัยไม่ใช่เรื่องของช่วงเวลาในชีวิต มันคือเรื่องของจิตใจ บางคนยังคงเดินหน้าและเชื่อมั่นในความหวังแม้ว่าพวกเขาจะอายุ 80 แล้วก็ตาม วัยหนุ่มสาวไม่มีขอบเขตของเวลาครับ

บรรยากาศในการถ่ายทำ

พัคโบกอม: พวกเรามีความสุขกันมากๆ เลยครับ หยุดหัวเราะไม่ได้เลย จนโดนเทคต้องถ่ายใหม่หลายครั้ง ผมมีความสุขมากตอนที่ถ่ายซีรีส์เรื่องนี้
พัคโซดัม: บรรยากาศในกองถ่ายสนุกมากค่ะ ฉากที่มีการเดินแฟชั่นโชว์ก็มีนายแบบนางแบบและทีมงานที่เตรียมถ่ายฉากนี้กันเยอะมาก เป็นฉากที่ฉันจะจดจำ ตัวจองฮาเองก็ใจเต้นแรงกับฉากนี้มากๆ
บยอนอูซอก: ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างและสนุกมากๆ ระหว่างการถ่ายทำ ขอบคุณพัคโบกอม และพัคโซดัม ที่เปิดหัวใจต้อนรับผมอย่างอบอุ่น ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมาก เหมือนว่าเราใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ โดยที่แทบไม่ได้ทำอะไรมากมาย ผมเชื่อว่าความสนุกและบรรยากาศดีๆ ในการถ่ายทำจะยังคงอยู่ในเรื่องราวที่จะได้ชมกันครับ

ทำไมต้องดู Record of Youth

พัคโบกอม: มีความสนุกหลายอย่างเลยครับ คุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านความรู้สึกของฮเยจุน และตัวละครอื่นๆ
พัคโซดัม: Record of Youth เป็นซีรีส์ที่ช่วยเยียวยาจิตใจนะคะ มันเป็นเรื่องราวของความรัก มิตรภาพ และครอบครัว หนุ่มสาวที่มีความแตกต่างกันได้มาพบกัน ต่อสู้กัน และเป็นห่วงเป็นใยกัน คุณจะเห็นอกเห็นใจพวกเขา และได้เยียวยาตัวเองด้วยการมองดูพวกเขาฝ่าฝันปัญหาในชีวิต
บยอนอูซอก: ซีรีส์เรื่องนี้สำหรับคนหัวใจหนุ่มสาวครับ คนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเอง มันเป็นซีรีส์ที่มหัศจรรย์ที่จะทำให้คุณนึกถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวและเพื่อนๆ มันมีคุณค่ามากๆ เชื่อมโยงถึงทุกคนได้ไม่ยาก ผู้กำกับได้ใส่รายละเอียดในการกำกับที่ทำให้เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้แสดงออกมาชัดเจน มันเต็มไปด้วยความสนุกและความอบอุ่น แต่ละคาแรคเตอร์มีความเป็นคนธรรมดาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ ผมคิดว่าคนดูจะสนุกไปกับ Record of Youth ยิ่งถ้าพวกเขาสวมทับตัวเองเข้าไปกับตัวละครใดในเรื่อง”

Record of Youth เส้นทางดาว เล่าเรื่องราวการตามหาความฝันของหนุ่มสาวในวงการโมเดลลิ่ง ท่ามกลางเปลือกนอกที่สวยงาม พวกเขากลับไม่ต่างจากหนุ่มสาวในยุคนี้ที่ต้องต่อสู้กับความไม่มั่นใจ ความเหงา และความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเอง
ผลงานกำกับโดย อันกิลโฮ เจ้าของผลงานซีรีส์คุณภาพมากมาย อาทิ Stranger, Memories of Alhambra และ Watcher เขียนบทโดย ฮามยองฮี ผู้เคยสร้างผลงานอบอุ่นหัวใจให้กับผู้ชมอย่าง Doctors และ Temperature of Love
Record of Youth เส้นทางดาว จะออกอากาศทุกวันจันทร์และอังคาร เวลา 21.00 น. เริ่มอีพีแรก 7 กันยายน 2563 ทาง Netflix

รอยยิ้มของ คิมบอม​ ในคาแรคเตอร์หล่อร้าย จากซีรีส์ Tale of the Nine Tailed

Tale of the Nine Tailed คิมบอม ซีรีส์เกาหลี

แฟน ๆ ที่คิดถึงผลงานของ คิมบอม ล่าสุด! เขากลับมาแล้วกำลังจะมีผลงานการแสดงในซีรีส์เรื่อง Tale of the Nine Tailed ซึ่งเขาเองก็ได้เป็นหนึ่งในนักแสดงนำเรื่องนี้ด้วย ร่วมด้วยพระเอก อีดงอุค และนางเอก โจโบอา ซึ่งคิมบอมได้รับบทเป็นตัวร้าย น้องชายของพระเอก

การกลับมาในรอบ 4 ปี ของ คิมบอม กับผลงาน ซีรีส์ Tale of the Nine Tailed

การกลับมามีผลงานซีรีส์ของ คิมบอม ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการกลับมาในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ผลงานล่าสุด Mrs. Cop2 ที่ออกอากาศทางช่อง SBS ไปเมื่อปี 2016 คิมบอมก็ต้องเข้ากรมไปเป็นทหาร หลังจากนั้นแฟน ๆ ก็คิดถึงผลงานของเขามาโดยตลอด

คิมบอม​ รับบท อีรัง การพลิกบทบาทด้านการแสดง

สำหรับซีรีส์เรื่อง Tale of the Nine Tailed คิมบอม​ รับบท อีรัง น้องชายต่างสายเลือดที่เกิดจากมนุษย์และปีศาจจิ้งจอกเก้าหางของ อียอน (รับบทโดย อีดองวุค)พระเอกซึ่งเป็นจิ้งจอกเก้าหางแต่ปรากฎกายในร่างมนุษย์ ซึ่งคิมบอมจะมาในคาแรคเตอร์เป็นหนุ่มหล่อร้ายที่มีความรู้สึกเกลียดชังมนุษย์มาก ๆ และล่าสุด! ได้มีการปล่อยภาพโปสเตอร์ทีเซอร์ของ คิมบอม ออกมา เป็นภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ก็มีความร้ายแฝงอยู่ ผลงานในครั้งนี้ทีมผู้สร้างซีรีส์เคยเผยไว้ว่า คิมบอม จะโชว์ความสามารถด้านการแสดงที่เรียกได้ว่าพลิกบทบาท เขาจะมีทั้งความอ่อนโยนและความแข็งแกร่งให้ได้เห็นกัน

ทั้งนี้ ซีรีส์ Tale of the Nine Tailed หรือ ตำนานสุนัขจิ้งจอกเก้าหาง เคยถูกสร้างมาแล้วทั้งในแบบซีรีส์และภาพยนตร์ โดยในการนำมารีเมคใหม่ครั้งนี้ได้เปลี่ยนการเล่าเรื่องโดยใช้ตัวเอกของเรื่องเปลี่ยนจากนางปีศาจจิ้งจอกให้เป็นผู้ชายและเป็นพระเอกของเรื่อง ซึ่งก็ได้ ลี ดองวุค มารับบทเป็นพระเอก และโจ โบอา เป็นนางเอกของเรื่อง

เนื้อเรื่องย่อ ซีรีส์ Tale of the Nine Tailed

เมื่อสุนัขจิ้งจอกเก้าหาง Gumiho นามว่า อียอน (รับบทโดย ลี ดองวุค) ผู้เป็นเทพแห่งเทือกเขา Baekdudaegan ผู้มีภาพบักษณ์ที่หล่อสง่า ฉลาดหลักแหลม เขาได้รับภารกิจมาทำงานในโลกมนุษย์โดยทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเกี่ยวกับงานสาธารณประโยชน์ระหว่างโลกปัจจุบันกับโลกใต้พิภพ ทำความสะอาดเรื่องราวยุ่งๆ ที่ถูกทิ้งไว้โดยคนที่รบกวนผู้อื่น ภายใต้หน้ากากแห่งความดุร้ายแต่เขารักความยุติธรรมนะ

ซีรี่ย์เกาหลี Touch your Heat ทนายเย็นชากับซุป’ตาร์ตัวป่วน

Touch Your Heart ซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ที่ชวนฟินดูแล้วต้องยิ้มจนแก้มปริ เป็นหนึ่งซีรีย์ที่เอาใจคู่จิ้น อีดงวุค และ ยูอินนา โดยเฉพาะ !!! เพราะคู่นี้เค้าโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งในบทบาท พระ-นาง ของเรื่อง พบกับ อีดงวุค และ ยูอินนา อีกครั้งในบทบาทของ ควอนจองรอก ทนายความหนุ่มรูปหล่อนิสัยเย็นชา และ โอยุนซอ นักแสดงสาวที่กำลังมีข่าวอื้อฉาวกับลูกชายตระกูลดัง ที่ต้องปลอมตัวมาเป็นเลขานุการของทนายหนุ่ม เพื่อนำไปใช้ในการแสดงบทบาทใหม่ของเธอ เรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ สร้างจากนิยายสุดฮิตในเว็บตูน

เรื่องย่อ 

โอยอนซอ นักแสดงหญิงชื่อดัง ที่ความงามของเธอทำให้เธอโดดเด่นเป็นดาราดัง แต่ความสามารถด้านการแสดงของเธอกลับห่วยแตก เมื่อเธอโดนเรื่องอื้อฉาวเข้าไป อาชีพการแสดงของเธอก็ตกต่ำเหมือนดิ่งลงเหว ยอนซอได้ยินว่านักเขียนบทเลื่องชื่อลือนามคนหนึ่งมีบทให้เธอแสดง แต่เธอต้องไปเป็นเลขาให้ทนายความคนหนึ่งสองสามเดือนเพื่อหาประสบการณ์เพื่อรับบทนี้ ด้านควอนจองรกก็เป็นทนายความของสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้านายของเขาอยากให้เขารับยอนซอเป็นเลขาเป็นเวลาสามเดือน ตัวเขาเองไม่ได้พอใจกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือก จนสุดท้ายก็เผลใจไปกับเลขาคนสวย เรื่องราวความรักที่ต้องปิดเป็นความลับจึงเกิดขึ้น

ถ้าหากว่าใครที่กำลังมองหาซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ผสมเรื่องกฎหมายไว้ดูช่วงยามว่างอยู่ล่ะก็ ขอแนะนำเรื่องนี้เลย ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยล้าหรือกำลังเครียดจากการทำงานมากเพียงใด ถ้าคุณได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันจะหายไปในทันที โดยมีพระนางคู่ขวัญอย่าง อีดงอุค-ยูอินนา ที่เคยโชว์ผลงานแสดงคู่กันในเรื่อง “Goblin” ร่วมแสดงบทนำในเรื่องนี้ด้วย โดยเรื่องนี้มีจำนวนตอนทั้งหมด 16 ตอน กำกับโดย “พัคจุนฮวา” ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานอย่าง “What’s Wrong with Secretary Kim” ที่ทำเอาคนดูฟินไปตาม ๆ กันมาแล้ว 

ขอย้ำอีกครั้งสำหรับสาวกซีรีส์โรแมนติก คอมเมดี้ กฎหมาย Touch your Heat เรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าติดตาม สามารถดูเพลิน ๆ ได้ทั้งวัน รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน 

สนันสนุนข้อมูลโดย ZilfaWI.com ดูซีรี่ย์เกาหลี

แนะนำ 5 อันดับซีรี่ย์เกาหลีแนวพีเรียดย้อนยุคที่ดูแล้วชอบมากที่สุด

แนะนำ 5 อันดับซีรี่ย์เกาหลีแนวพีเรียดย้อนยุคที่ดูแล้วชอบมากที่สุด

สวัสดีคอซีรี่ย์เกาหลีทุกคน วันนี้เรามารีวิวซีรี่ย์แนวย้อนยุค ราชวงศ์เกาหลีที่เราชอบ 5 อันดับแรกค่ะ ใครกำลังหาซีรี่ย์เรื่องใหม่ดูในแนวย้อนยุคอยู่จะได้ตัดสินใจถูกกันว่าดูเรื่องไหนดี ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

อันดับที่ 1 Moon lovers: scarlet heart ryeo 

คะแนน 10/10 เรื่องราวของนางเอกที่อยู่ในภพปัจจุบันตกน้ำ แล้วได้ข้ามพบไปอีกภพหนึ่งสมัยโครยอ และได้พบเจอกับเหล่าองค์ชาย นอกจากความดีงามของผู้ชาย เรื่องราวก็ยังเข้มข้นมาก บอกเลยว่าจะดูเรื่องนี้ต้องเตรียมทิชชู่นะจ๊ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เราจะร้องไห้ เอาจริงๆไม่คิดว่าจะเศร้าเบอร์นี้ แต่ที่เป็นอันดับหนึ่งของเราเพราะผู้เยอะมากจ้าเรื่องนี้ ฮ่าๆๆ เรื่องราวก็เข้มข้นมากๆ จะมีสนุกปนเศร้าเคล้าน้ำตา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แนะนำเพลงประกอบซีรี่ย์ เพลงเขาเพราะมากๆ ลองเสริชหาฟังใน YouTube ได้จ้า จะได้อินระหว่างดูกัน”

ซีรี่ย์เกาหลี
Credit fanpop.com

อันดับที่ 2 The Emperor: Owner of the Mask 

ซีรี่ย์เกาหลี
Credit Viu.com

คะแนน 10/10 เรื่องนี้เข้มข้นอีกแล้ว ส่วนใหญ่ซีรี่ย์แนวพีเรียดจะมีเนื้อเรื่องเครียด ซึ่งไม่ใช่แนวเราเท่าไหร่ แต่เราชอบยูซึงโฮ (พระเอก) แสดงดีมากเลย ดูซีรี่ย์ของนางหลายเรื่องมากๆ ไว้จะมาเขียนแนะนำซีรี่ย์ของยูซึงโฮค่ะ เราแนะนำเรื่องนี้ เพราะบทเขาดีจริงๆค่ะ เนื้อเรื่องแอบเครียดนิดนึงสไตล์หนังย้อนยุค เราอินกับตัวละครทั้งนางเอก พระเอกในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ จนเขาทั้งสองได้มารักกันในที่สุด 

อันดับที่ 3 My sassy girl 

credit dramafandom.com

คะแนน 9.5/10 มาแนวไม่เครียดกับการเมืองมากเกินไปก็ต้องเรื่องนี้เลยจ้า  เป็นซีรี่ย์เกาหลีพีเรียดที่เนื้อเรื่องเบาสมองกว่าทุกเรื่องข้างบน ชอบคาแรคเตอร์นางเอก เล่นได้ตลกจริงอะไรจริง ซนๆ ทะเล้นๆ ฉีกทุกกฏกฏความเป็นองค์หญิงของทุกเรื่องจ้า ใครไม่ชอบเนื้อเรื่องราชวงศ์เกาหลีเครียดๆหนักๆ ล่ะก็ เรื่องนี้เป็นตัวเลือกที่ดีจ้าไปดูกัน แนะนำเลย

อันดับที่ 4 The Crowned Clown 

Credit thedramacorner.com

คะแนน 9.5/10 ตลกหนุ่มผู้หน้าตาเหมือนพระราชาราวกับแกะ จับพลัดจับผลูขึ้นมานั่งแท่นเป็นพระราชาเพื่อหวังหลีกเลี่ยงการลอบปลงพระชนม์ เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก เนื้อหาเครียดระดับปานกลางพอรับได้ บาลานซ์กับเรื่องราวความรักของพระนางก็คือพอดีกัน ดูแล้วลุ้นตลอด กลัวตัวร้ายจะจับได้ กลัวพระเอกโดนฆ่ามากจ้า พระเอกที่แสดงเป็นตัวปลอมก็แสดงเก่งไปอีก เรื่องนี้แม้จะหนักหนา แต่โมเม้นท์พระนางก็สามารถกลบความเครียดของเนื้อเรื่องได้ ทำให้เรื่องนี้น่าติดตาม สนุกมากๆ” 

อันดับที่ 5 My only love song 

คะแนน 8/10 เรื่องนี้เราดูไว้นานแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแนวพีเรียดจ๋าๆ นะ มีการข้ามมิติเวลาไปของนางเอก แล้วการใช้ภาษาในเรื่องก็ออกแนวปัจจุบันมากกว่าด้วย เราดูเรื่องนี้ เพราะติดตามคู่พระนางที่ไปออกรายการ We got marriage เห็นว่าเคมีน่ารักดี อีกทั้งเนื้อเรื่องเบาสมอง ดูคลายเครียดเพลินๆ ได้เลยจ้า เรื่องนี้แอบไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับพีเรียดเรื่องอื่นๆ ที่มีเนื้อเรื่องซับซ้อนซ่อนปมให้คิดเยอะจ้า 

นี่ก็เป็นซีรี่ย์เกาหลีแนวย้อนยุค 5 อันดับที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ เราเป็นมือใหม่หัดรีวิวซีรี่ย์ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ อันนี้เรารีวิวจากความรู้สึกในมุมมองเราเท่านั้น เพื่อนๆ สามารถพิจารณาตามความชอบของตัวเองได้เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

แนะนำ 15 ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค รับรองว่าถูกใจคนชอบดูซีรีย์เกาหลี

แนะนำ 15 ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค คัดสรรมาให้ แต่เรื่องเด็ด ๆ ดัง ๆ พร้อมรับประกันความสนุกชนิดที่ ถ้าคุณเป็นแฟนซีรีย์ซากึก (Sageuk) ตัวยงต้องห้ามพลาด !

(Sageuk : ซากึก คือ ชื่อที่ใช้เรียกซีรีย์เกาหลีเเนวย้อนยุค เนื้อหาส่วนใหญ่อิงประวัติศาสตร์เกาหลี หรือไม่ก็นำเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย หรือช่องว่างทางประวัติศาสตร์ มาแต่งเติมสร้างเรื่องราวให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น)

1. The Tale of Nokdu


เรื่องแรกที่จะแนะนำ คือซีรีย์เรื่อง The Tale of Nokdu เป็นซีรีย์ย้อนยุค เเนวโรแมนติก คอมเมดี้ ที่ออนเเอร์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยรีเมคจากต้นฉบับที่เป็นเว็บตูน 

เรื่องนี้เเหวกแนวกว่าเรื่องอื่น เพราะว่าด้วยเรื่องราวของชายที่มีชื่อว่า จอนนกดู (รับบทโดย จางดงยุน) ลูกชายตระกูลขุนนาง ตัดสินใจปลอมตัวเป็นผู้หญิงเข้ามาอยู่ในชุมชนหญิงล้วนด้วยเหตุผลบางอย่าง ที่นั่นทำให้เขาได้พบกับ ดงดงจู (รับบทโดย คิมโซฮยอน) หญิงสาวที่ถูกฝึกให้เป็นกีแซง ทั้งที่จริง ๆ แล้วเธอไม่อยากเป็น เรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้เริ่มต้นที่นั่น

2. Jang Ok Jung


เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในซีรีย์เกาหลี ระดับตำนานที่ต้องห้ามพลาด ! Jang Ok Jung (จางอ๊กจอง) หรือชื่อไทยว่า ตำนานรักคู่บัลลังก์ ซีรีย์ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีในช่วงเวลาที่ออกอากาศ

เรื่องราวย้อนไปตอนที่ จางอ๊กจอง (จางฮีบิน) ยังเป็นเด็ก เธอเกิดมาในฐานะชนชั้นต่ำ มีบิดาเป็นชนชั้นสูง ส่วนมารดาเป็นทาส ครอบครัวของเธอต้องใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากนักล่า จุดเปลี่ยนของอ๊กจองเกิดขึ้นเมื่อ มารดาของเธอถูกจับเป็นทาส พี่ชายหายสาบสูญ มิหน่ำซ้ำบิดาของเธอก็ได้ล้มป่วยเสียชีวิตไปอีกคน

3. Dong Yi

Dong Yi

Dong Yi ชื่อไทย ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ซีรีย์อิงประวัติศาสตร์สุดเข้มข้น ที่ใคร ๆ ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสนุกมาก ! นำแสดงโดย ฮัน ฮโยจู จี จินฮี ลี โซยอน เบ ซูบิน กำกับการแสดงโดย อี บยองฮุน และ คิม ซังฮย็อบ เขียนบทโดย คิม ยียัง 

เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีต่าง ๆ เรื่องราวเกี่ยวข้องกับพระมารดาของพระราชารัชสมัยพระราชาองค์ที่ 21 แห่งโชซอน โดยพระมารดาเป็นพระสนมของ พระเจ้าซุกจง ซึ่งเป็นพระราชาองค์ที่ 19 โดยพระสนมซุกบิน (ทงอี) เกิดมาในครอบครัวที่เป็นชนชั้นต่ำของสังคม ที่ครอบครัวต้องพบเจอกับความอยุติธรรม จนทำให้ได้เข้าไปเป็นนางรับใช้ในวัง

4. Sungkyunkwan Scandal

ซีรีย์เรื่อง Sungkyunkwan Scandal ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีในประเทศเกาหลีใต้ ประเทศไทย และประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะคู่ของยู อาอิน และ ซง จุงกิ ที่ได้รับรางวัล Best Couple Award จากสถานีโทรทัศน์ KBS2 รวมถึง ปาร์ค ยูชอน ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากจากเรื่องนี้

Sungkyunkwan Scandal หรือชื่อไทยว่า บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น เป็นซีรีย์แนวย้อนยุคโรแมนติกคอมเมดี้ ดัดเเปลงมาจากนิยายที่ชื่อว่า The Lives of Sungkyunkwan Confucian Scholars เขียนโดย จอง อึนกวอล ซึ่งนำมาเขียนเป็นบทละครโดย คิมแทฮี กำกับโดย คิม วอนซอก และ ฮวาง อินฮยอก เนื้อหาเกี่ยวกับ ยุนฮี หญิงสาวผู้ตกยาก ที่ต้องปลอมเป็นชายเพื่อรับจ้างการสอบเข้าซองคยุนกวาน ที่เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังในสมัยโชซอนแหล่งอบรมบัณฑิตผู้ซึ่งจะสำเร็จการศึกษาและออกมาเป็นขุนนางรับใช้บ้านเมืองและประชาชน โดยเธอต้องอยู่รายล้อมไปด้วยบัณฑิตหนุ่มหล่อทั้งหลาย เรื่องรักวุ่น ๆ เลยเกิดขึ้นท่ามกลางอุปสรรคมากมาย

5. The Moon That Embraces The Sun

ซีรีย์อิงประวัติศาสตร์ จากผลงานการเขียนของ จองอึนกวอล (Jung Eun Gwol) ผู้ซึ่งเคยมีผลงานเขียนจากละครเรื่อง “Sungkyunkwan Scandal” อันโด่งดัง

The Moon That Embraces The Sun เรื่องราวความรักโรแมนติกย้อนยุคของของพระเจ้า อีฮวอน (Kim Soo Hyun) ซึ่งได้ปลอมตัวเป็นสามัญชนเพื่อออกไปนอกวังกับองครักษ์ แต่เกิดไปติดฝน จึงเข้าไปหลบที่กระท่อมแห่งหนึ่ง และได้พบกับหญิงสาวงามคนนึง ไม่เพียงหญิงสาวคนนี้จะรูปงามเท่านั้น เธอกับมีวาทะที่เป็นเลิศทั้งกาพย์และกลอน พระองค์จึงประทานชื่อ ว่า วอล (Han Ga In) (ซึ่งแปลว่าพระจันทร์) บทสรุปความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ? มาร่วมตามหาวอลและความรักของพระเจ้าอีฮวอนได้ใน ซีรี่ย์เกาหลี The Moon That Embraces The Sun

6. Moon Lovers

Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo ออกอากาศในปี 2016 โดยดัดแปลงมาจากซีรีย์จีนชื่อดังเรื่อง “Scarlet Heart” ที่ออกอากาศทางหูหนานทีวี เมื่อปี 2011 เนื้อหาเกี่ยวกับ “โก ฮาจิน” หญิงสาววัย 25 ปี จากศตวรรษที่ 21 ซึ่งเดินทางย้อนเวลาไปยังปี ค.ศ. 941 อันเป็นยุคแรกเริ่มของราชวงศ์โครยอแบบไม่คาดฝัน หลังช่วยเด็กที่กำลังจมน้ำในช่วงที่เกิดสุริยุปราคา พอรู้ตัวอีกทีเธอก็พบว่าตนเองอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวโครยอวัย 16 ปี ที่มีชื่อว่า “แฮซู” ซึ่งอาศัยอยู่ที่ตำหนักองค์ชาย 8 และนั่นก็ทำให้เธอได้พบและรู้จักกับเหล่าองค์ชายหลายพระองค์ด้วยกัน

ในตอนแรกเธอเผลอมีใจให้ชายหนุ่มที่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่าง “องค์ชาย 8” ซึ่งเป็นสามีของลูกพี่ลูกน้องเธอ แต่ภายหลังได้ตกหลุมรักชายหนุ่มที่ซ่อนแผลเป็น (ทั้งทางร่างกายและจิตใจ) ของตนไว้ภายใต้หน้ากากอย่าง “องค์ชาย 4” ที่ใคร ๆ ต่างก็หวาดกลัว กว่าจะรู้ตัวเธอก็ตกอยู่ท่ามกลางการแข่งขัน ห้ำหั่นทางการเมือง และการต่อสู้แย่งชิงราชบัลลังก์ในหมู่องค์ชาย

7. Love in the Moonlight

Love in the Moonlight เป็นอีกหนึ่งซีรีย์เกาหลีย้อนยุคที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2016 นำแสดงโดย พัก โบ-ก็อม และ คิม ยู-จ็อง ออกอากาศทางช่องเคบีเอส 2 

โดยเป็นเรื่องราวความรักขององค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์โชซอนและหญิงสาวที่ปลอมตัวเป็นขันทีในวังหลวง ละครสร้างจากนวนิยายในชื่อ Moonlight Drawn by Clouds ของยุน อี-ซู โดยเป็นหนึ่งในการ์ตูนช่องออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จบนเว็บตูนเนเวอร์ในปี พ.ศ. 2556 จนได้รับการตีพิมพ์เป็นนวนิยายชุด 5 เล่มในปี พ.ศ. 2558

8. Gu Family Book

ซีรีย์แนวซากึกแฟนตาซี Gu Family Book หรือชื่อไทยว่า คังชิ คัมภีร์ตระกูลจิ้งจอก นำเเสดงโดย อี ซึงกิ และ เเบ ซูจี เป็นซีรีย์ที่นำเสนอเรื่องราวของ “ชเว คังชิ” ลูกครึ่งอสูร (มนุษย์ – จิ้งจอก 9 หาง) หลังพบว่าแท้จริงแล้วตนเองไม่ใช่มนุษย์ เขาก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติ และออกตามหาคัมภีร์โบราณอายุหนึ่งร้อยปีที่ระบุเคล็ดลับในการกลายร่าง เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์

เรื่องราวในละครเริ่มต้นด้วยการเปิดตัว “สวนแสงจันทร์” ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาหินอันเร้นลับและสลับซับซ้อนกลางป่าลึก ที่นี่เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณแห่งขุนเขามานานนับพันปี นาน ๆ ครั้งเทพอสูรที่คอยพิทักษ์ป่าเขาแห่งนี้จะปรากฏร่างให้เห็นสักครั้ง ถึงกระนั้นก็ไม่เคยมีมนุษย์คนใดกล้าย่างกรายเข้าไปใกล้ดินแดนลึกลับแห่งนี้

9. The Crowned Clown

เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากในปี 2019 สำหรับ The Crowned Clown ซีรีย์ซากึกทางช่อง tvN ที่รีเมคมาจากภาพยนตร์เรื่อง Masquerade เมื่อปี 2012 นำแสดงโดย ยอจินกู พระเอกหนุ่มที่เติบโตจากการเป็นนักแสดงเด็กที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้ากันดี 

โดยในเรื่องนี้นักแสดงหนุ่มจะต้องรับบทเป็นสองตัวละครที่คาแรคเตอร์ต่างกัน กับเรื่องราวของราชาที่สลับตัวกับนักแสดงตลกที่มีหน้าตาคล้ายกันเพื่อหลีกเลี่ยงการลอบสังหาร

10. 100 Days My Prince

ซีรีย์เกาหลีน่ารัก ๆ ที่ต้องดู ! 100 Days My Prince แนวย้อนยุคโรแมนติกคอมเมดี้ นำแสดงโดยไอดอลสุดฮอต D.O. วง EXO รับบทเป็นเจ้าชายรัชทายาทอียูล ที่อยู่ ๆ องค์รัชทายาทก็หายตัวไป และกลับมาพระราชวังอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไป 100 วัน ระหว่างช่วงเวลานั้นเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ ?

โดยเป็นราวขององค์รัชทายาท“อียูล” (ดีโอ วงเอ็กโซ) ที่ได้รับบาดเจ็บจนความจำเสื่อม จนชีวิตตกผกผันทำให้เขากลายเป็น “วอนดึก” หนุ่มสามัญชนคนธรรมดาที่ไม่เอาไหน เป็นเวลานานถึง 100 วัน แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วองค์รัชทายาทไม่ได้เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขายังถูกลอบปลงพระชนม์จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดทำให้ความทรงจำช่วงร้อยวันนั้นของเขาได้หายไป เลยเป็นเหตุให้เจ้าชายอียูลได้มาพบกับสาวโสดอายุมากที่สุดในโซซอนอย่าง”ฮงซิม”(นัมจีฮยอน)หญิงสาวผู้ชาญฉลาดและทำงานในสำนักสืบสวน เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับหนุ่มที่ไม่มีอะไรดีอย่าง วอนดึกและยิ่งเธอผลักไสเขาให้ไกลออกไปเท่าไหร่ เธอกลับยิ่งมองเห็นความดีในตัวของเขามากขึ้นเท่านั้น

11. Kingdom

ซีรีย์เกาหลีแนะนำจาก Netflix ที่คอซีรีย์การันตีความสนุกเกินร้อย ! Kingdom เป็นซีรีย์ที่มีเรตติ้งสูง โดย Kingdom มีกระแสพูดถึงหนักมากหลังปล่อยออกอากาศออกมาเพียงไม่กี่ตอน มีทั้งกระแสจากการรีวิวและคำชมต่าง ๆ เต็มไปหมด จนมีซีซั่น 2 ตามมาในที่สุด นำแสดงโดย จูจีฮุน, ริวซุงยอง และแบดูนา สร้างโดย คิมซองฮุน และคิมอึนฮี

Kingdom เป็นซีรีย์แนวซอมบี้ย้อนยุค เป็นเรื่องราวของราชสำนัก และบ้านเมืองในสมัยโชซอนที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับโรคประหลาดของกษัตริย์ถูกเผยแพร่ออกไป องค์รัชทายาท (จูจีฮุน) ต้องกลับมาตามหาเรื่องจริงเกี่ยวกับพ่อของเขา โดยไม่รู้เลยว่าเรื่องราวมันเลยเถิดไปมากกว่านั้น เพราะมันไม่ใช่แค่โรคระบาด แต่มันเป็นซอมบี้ที่พร้อมจะกัดกินทุกคนที่ผ่านเข้ามาเจอ

12. The Emperor: Owner of the Mask

Ruler: Master of the Mask เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศักราชศตวรรษที่ 18 เรื่องราวของมกุฎราชกุมาร Lee Sun และการต่อสู้กับองค์กร Pyunsoo-hwe ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจและความมั่งคั่งที่ควบคุมเบื้องหลังของประเทศ

เค้าโครงของเรื่องเกิดจากเหตุการณ์จริงขององค์ชายอีซาน (ยูซึงโฮ) ต้องต่อสู้กับพยองซูฮวา องค์กรที่มีการสะสมอำนาจและความมั่งคั่งผ่านการแปรรูปน้ำทั่วโชซอน องค์ชายอีซานกลายเป็นความหวังสำหรับคนที่ทนทุกยาก กาอึน (คิมโซฮยอน) คนรัก และเธอจะช่วยในการแผ่ขยายอาณาจักร

13. The King Loves

The King Loves เป็นเรื่องราวที่อิงมาจากเนื้อเรื่องในหนังสือ ซีวานจะรับบทเป็น ‘เจ้าชายวังวอน’ (Wang Won) พระราชาที่มีความเฉลียวฉลาดในสมัยโครยอ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะของผู้นำที่มีความโดดเด่น โดยเจ้าชายวังวอนจะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง ‘ริน’ (ฮงจงฮยอน) และยุนอารับบท ‘วังซาน’ สาวสวยที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ที่เจ้าชายวังวอนและรินตกหลุมรัก เหตุการณ์ในเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยความรักและความทะเยอทะยาน

ฉากหลังของละครเรื่องนี้คือยุคสมัยของอาณาจักรโครยอ เจ้าชายวอนผู้ปรารถนาที่จะเป็นกษัตริย์ที่ดีและครองอาณาจักรอย่างมั่นคง ทั้งนี้เจ้าชายวอนกลับต้องมามีเรื่องราวกับเพื่อนอย่างริน โดยเหตุมาจากความรัก ทั้งนี้วังซานถือเป็นคนที่มายุติความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ วอนและรินเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กและสนิทกันเหมือนพี่น้อง แต่ความเป็นพี่น้องของพวกเขากลับต้องจบลงเนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็หลงรักวังซาน

14. My Country

My Country ซีรีย์ย้อนยุคประวัติศาสตร์-โรแมนติก โปรเจ็กต์ของช่อง JTBC ที่มีความดราม่าเข้มข้นจัดเต็ม เอาใจสาวกซีรีย์แนวซากึกแบบไม่มีกั๊ก บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างจุดจบของยุคโครยอ และ จุดเริ่มต้นของยุคโชซอน ซึ่งจะถ่ายทอดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของกลุ่มคนที่มีความปรารถนาอยากได้และปกป้องอำนาจของตนเอง

15. A Jewel in the Palace

ปิดท้ายด้วยซีรีย์เรื่อง A Jewel in the Palace ซีรีย์แนวย้อนยุคในตำนานที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อเรื่องว่า แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ผลงานซีรีย์สุดโด่งดังที่ออกฉายไปทั่วเอเชีย

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาสมัยของราชวงศ์ Chosun ประเทศเกาหลียังคงปกครองด้วยกฎเกณฑ์ที่ผู้ชายมีอำนาจเป็นใหญ่กว่าผู้หญิง Dae Jang Geum – Jewel in the Palace สร้างมาจากเรื่องจริงของหญิงสาวผู้เป็นตำนานนามว่า Jang Geum ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกของเกาหลีที่เป็นแพทย์คอยรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับเชื้อพระวงศ์ในพระราชสำนัก

ดูกันต่อเนื่องยาว ๆ ไปกับ 15 ซีรีย์เกาหลีย้อนยุคที่เราคัดสรรมาให้ ซึ่งความดีงามทั้งหมดนี้คงต้องยกให้เป็นผู้เขียนบท และนักแสดงทุกคนที่เล่นกันสมบทบาทมาก ทำคนดูอย่างเรา ๆ อินไม่น้อยเลยทีเดียว เอาเป็นว่าในอนาคตหรือปีต่อ ๆ ไปมีซีรีย์ย้อนยุคสนุก ๆ เรื่องไหนอีก เราจะรีบนำมาอัปเดทให้คอซีรีย์ได้ทราบกันทันที อย่าลืมติดตามกันด้วยนะ 

แนะนำ 15 ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค รับรองว่าถูกใจคนชอบดูซีรีย์เกาหลี

ซีรี่ย์เกาหลีน่าดู

ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค

ดูซีรี่ย์เกาหลี